You can replace this text by going to "Layout" and then "Page Elements" section. Edit " About "
RSS
content top

ทำความเข้าใจกับคนเขียน และเล่าเรื่องบางอย่างในวันที่ 26 ธันวา 2553

สงสัยว่าทำไมคนเขียนถึงเขียนบทความ เทคโนโลยี และ ศาสนา

เพราะเราอยากให้คนที่มาอ่านมีความรู้เรื่องเทคโนโลยีควบคู่กับศีลธรรมอันดีงาม
เห็นแบบนี้ก๊อบบ้าง เขียนเองบ้าง (แต่ส่วนมากจะก๊อบ อิอิ)
แต่ล้วนแล้วอ่านหมด อยากให้เพื่อนๆผู้สนใจช่วยกันสร้างสรรค์สังคมของเราใหม่
มีน้ำใจ รักและสามัคคีกัน ไม่เห็นแก่ตัว
นอกจากนี้อยากให้รักครอบครัว

แฟนมีวันเลิก แต่พ่อแม่ไม่มีวันเลิกนะอย่าลืม!!!!!!   อิอิ

มาๆเข้าเรื่องละนะ
เราว่าผู้หญิงทุกคนเคยเจอ ไม่ได้อยากว่าผู้ชายเลยนะ
แต่เอาเป็นว่าบางคนละกันเดี๋ยวผู้ชายที่ดีอ่านจะน้อยใจ
เราขึ้นรถเมล์สายไหนก็ตามที่คนเยอะผู้ชายที่นั่งอยู่อ่ะเห็นผู้หญิงเยอะแยะยืนมีทั้งแก่ วัยกลางคน วัยรุ่น เด็ก ผู้ชายไม่ยอมลุกให้นั่ง อะไรไม่ว่าผู้ชายบางคนทำเป็นแกล้งหลับอีก โหนึกภาพดูนะไม่ละอายแก่ใจเลย เพื่อนเราเคยบอกว่า ถ้าไม่ใช่แฟน หรือ แม่ ก็ไม่ลุกให้หรอก ประโยคนี้โดนใจเราจริงๆเพราะปัจจุบันมันเป็นอย่างนี้จริงๆ ผู้ชายพวกนี้มันแย่มากๆแล้ว เห้อ!!! หวังว่าใครใกล้ตัวที่มีนิสัยแบบนี้ก็บอกเค้าเถอะนะ อย่างน้อยๆให้คนที่ได้นั่ง และคนในรถได้มองว่า สุภาพบุรุษ คนที่ถูกให้มีความสุข เป็นตัวอย่างที่ดี ไม่ใช่........คิดเอาเอง

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS
Read comments

ทำความดีกันเถอะ

ศาสนากับชีวิต

การลดกรรม 34 อย่าง
(ควรอ่านอย่างยิ่ง)

1. กรรมที่ไม่มีลูก

กรรมจาก การทำร้ายลูกของสัตว์อื่น พรากสัตว์อื่นจากพ่อแม่หรือเคยข่มเหงลูกคนอื่น
ลดกรรม ด้วยการงดกินเนื้อสัตว์ทุกๆ 7 วัน ในทุกๆเดือนทำบุญปล่อยปลาลงน้ำ ปล่อยนกปล่อยกา ทำบุญบริจาคทานที่มูลนิธิสัตว์หรือ มูลนิธิเด็กอ่อน

2. เจ็บป่วยบ่อย หรือเป็นโรคร้าย

กรรมจาก เคยทำทารุณกรรมต่อสัตว์
ลดกรรม ด้วยการทำบุญทำทานกับสัตว์อนาถา ให้อาหารให้ความเมตตา ซื้อยาหรือบริจาคเงินที่โรงพยาบาลสงฆ์ ทำบุญปล่อยเต่า งดกินเนื้อสัตว์ตลอดชีวิต

3. ตาบอดหรือเป็นโรคตา

กรรมจาก เคยทำร้ายสัตว์ที่ดวงตา หรือไม่เคยทำบุญเติมน้ำมันตะเกียงในชาติก่อน หรือเคยทำลายไฟฟ้าของวัด ของที่สาธารณะ
ลดกรรม ซื้อโคมไฟ หลอดไฟถวายวัด ถวายเทียนห่อใหญ่ ถวายไฟฉาย เติมน้ำมันตะเกียงทุกวันพร! ะ บริจาคเงินในกล่องซื้อน้ำมันเติมตะเกียงที่วัด

4. ถูกรถเฉี่ยวชน ถูกลูกหลง ถูกสัตว์กัดต่อย

กรรมจาก จากเคยเป็นคนพาลเกะกะเกเร หาเรื่องเดือดร้อนให้ผู้อื่น มักรังแกและสาปแช่งผู้อื่นอยู่เสมอ
ลดกรรม หมั่นพูดดี มีวาจาไพเราะ

5. สูญเสียคนใกล้ชิด

กรรมจาก เคยยิงนกตกปลา
ลดกรรม ทำบุญไถ่ชีวิตโค กระบือ งดกินเนื้อสัตว์อย่างน้อยสัก 1 อย่างชั่วชีวิต หรือกินเจทุกๆ 3 เดือน ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา

6.ถูกนินทา ถูกให้ร้าย

กรรมจาก เคยพูดจาให้เป็นเหตุให้คนอื่นเป็นทุกข์หรือเดือดร้อน
ลดกรรม พิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี พูดดี พูดให้คนอื่นเกิดประโยชน์ พูดให้ผู้อื่นมีความสุข

7. มักเดือดร้อนเพราะไฟ ไฟไหม้บ้าน ไฟดูด

กรรมจาก เคยลบหลู่พระสงฆ์ และศาสนา
ลดกรรม ตักบาตรทุกวันพระ ทำบุญถวายสังฆทานทุกเดือน ฟังเทศน์ฟังธรรมทุกวันพระ หรือทุกๆเดือนในวันพระ ร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะแจกจ่ายฟรี

8. ขาดบารมี ไร้ญาติขาดมิตร

กรรมจาก ไม่เคยไปร่วมงานบุญงานศพ
ลดกรรม ร่วมทำบุญงานศพ บริจาคเงิน หรือร่วมด้วยแรงกายช่วยงานอื่นๆในงานศพ เช่นทำอาหาร จัดดอกไม้

9. ตั้งหลักปักฐานไม่ได้ โยกย้ายบ่อย

กรรมจาก ไม่เคยร่วมทำบุญสร้างโบสถ์สร้างวิหาร แก่วัดวาอารามต่างๆ
ลดกรรม ร่วมทำบุญสร้างโบสถ์ สร้างหลังคาวิหาร ร่วมทำบุญฝังลูกนิมิต หมั่นไปไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ณ เมืองที่ตนอยู่อาศัย

10. มักถูกรังแก ถูกเบียดเบียน

กรรมจาก ไม่เคยบวช หรือทำบุญงานบวช
ลดกรรม บวช ด้วยจิตศรัทธาปวารถาอย่างบริสุทธิ์ไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝงจะบวช 7 วัน หรือ 15 วัน 1 เดือน 1 พรรษา แล้วแต่จิตศรัทธา ถ้าเป็นสตรีจะบวชชีพราหมณ์ หรือถือศีล 8 ตามเวลาที่สะดวกและตั้งจิตศรัทธา หรือร่วมทำบุญงานบวชอย่างสม่ำเสมอเท่าที่จะทำได้

11.ไม่มีคนชื่นชมเอ็นดู ขาดเสน่ห์

กรรมจาก ไม่เคยถวายของหอม
ลดกรรม หมั่นทำบุญไหว้พระทุกวันพระ ถวายธูปหอม เทียน ดอกไม้สด พวงมาลัย ทองคำเปลว ประน้ำอบน้ำปรุง ประพฤติดีปฏิบัติชอบต่อผู้อื่น คิดดี ทำดี พูดดี ให้ผู้อื่นได้ดี มิให้ร้ายผู้ใด

12. เป็นที่รังเกียจ มีกลิ่นปาก กลิ่นตัว

กรรมจาก ทำติเตียนดูแคลน ผู้ที่ชอบทำบุญทำทาน
ลดกรรม หมั่นทำบุญทำทานอย่างสม่ำเสมอ ฟังเทศน์มหาชาติทุกๆปี ชักชวนผู้อื่นให้ร่วมทำบุญหรือบริจาคทานเป็นการบอกบุญผู้อื่นพิมพ์หนังสือ ธรรมะจ่ายแจกฟรี

13. ไปไหนมาไหนลำบาก มีแต่อุปสรรค

กรรมจาก เคยทำลายหนทางสัญจรของวัด หรือของชาวบ้าน หรือทำให้ทางสัญจรสาธารณะได้รับความไม่สะดวก
ลดกรรม บริจาคทรัพย์หรือแรงกายช่วงสร้างสะพาน สร้างทางอันเป็นประโยชน์แก่วัด หรือชุมชนเล็กๆ ช่วยผู้คนยากไร้ให้ได้มียวดยานพาหนะหรือทางสัญจรที่สะดวก

14. เป็นคนรับใช้เขาร่ำไป

กรรมจาก เคยเนรคุณผู้ที่เคยมีพระคุณแก่ตน
ลดกรรม ตอบแทนผู้มีคุณด้วยความกตัญญู ร่วมทำบุญสร้างพระพุทธรูป พระประธาน ทำทานทั้งกับคนและสัตว์

15. ขัดสน อดมื้อกินมื้อ

กรรมจาก เคยละเว้นการใส่บาตร ละเว้นการให้ทาน เมื่อมีคนยากไร้มาขอทานอาหารและน้ำ
ลดกรรม แบ่งปันอาหาร น้ำ เสื้อผ้า แก่คนยากไร้อนา! ถา แม้ไม่มีเงินก็แบ่งปันสิ่งของตามที่มี ตักบาตรทุกเช้าหรือทุกวันพระ

16. อาภัพคู่ ร้างคู่

กรรมจาก เคยผิดลูกผิดเมียเขา
ลดกรรม บวชพระ หรือบวชชีพราหมณ์ ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพงานแต่งงานคู่บ่าวสาวที่ยากจน ถวายของเป็นคู่ เช่น แจกันคู่เชิงเทียนคู่ หมอนคู่ เป็นต้น

17. ได้คู่ที่เลวร้าย ทำร้ายตนหรือทำให้เป็นทุกข์

กรรมจาก เคยข่มขืนเขาในชาติก่อน เคยทุบตีทำร้ายคู่
ลดกรรม บวชพระ หรือบวชชีพราหมณ์ ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา

18. อยู่โดดเดี่ยวยามบั้นปลาย

กรรมจาก เคยจับสัตว์ขัง
ลดกรรม ทำบุญปล่อยปลาลงน้ำ ปล่อยนกปล่อยกา ทำบุญทำทานแก่เด็กอนาถาและสัตว์อนาถา

19. รูปร่างหน้าไม่งดงาม

กรรมจาก ไม่เคยถวายดอกไม้ของหอม
ลดกรรม ถวายพวงมาลัยดอกไม้สด ดอกไม้หอม ทำบุญบริจาคดวงตา บริจาคร่างกายให้โรงพยาบาล

20. มักถูกโกง ถูกเบี้ยวเงิน

กรรมจาก เคยคดโกงผู้อื่น!
ลดกรรม สละทรัพย์บริจาคร่วมการกุศลต่างๆ ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศลแก่เจ้ากรรมนายเวรทุกๆเดือน

21. พิการ ร่างกายไม่สมประกอบ

กรรมจาก เคยทุบตีพ่อแม่ ด่าพ่อแม่ หรือทำร้ายพ่อแม่
ลดกรรม หมั่นทำบุญไหว้พระ ปล่อยนกปล่อยปลา ถือศีล 5 ศีล 8 เจริญภาวนา นั่งวิปัสสนากรรมฐาน

22. มีคดีความ

กรรมจาก เคยพบคนทุกข์ร้อนแล้วไม่ช่วยหรือพยายามหาทางช่วยเหลือ
ลดกรรม หมั่นทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา นั่งสมาธิ เจริญวิปัสสนากรรมฐาน ถือศีล 8 ทุกๆ 3 เดือนๆละ 7 วัน

23. ไร้ที่อยู่เป็นหลักแหล่ง

กรรมจาก ไม่สงเคราะห์คนอนาถา ที่มาขออาหาร ขอชายคาหลบฝน ไม่มีน้ำใจช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก
ลดกรรม ร่วมทำบุญซื้อกระเบี้องหลังคาโบสถ์ หมั่นไปกราบไหว้บู! ชาศาลหลักเมือง ทำบุญทำทานแก่สัตว์พิการหรือสัตว์จรจัด

24. จิตใจขุ่นมัว ดุดัน ขี้โมโห

กรรมจาก มักตะหนี่ในการทำบุญ
ลดกรรม สวดมนต ์ไหว้พระ ทุกวันพระ ฝึกวิปัสสนากรรมฐาน ถือศีล 5 หรือศีล 8 ทุกๆ 3 เดือน บริจาคทาน แบ่งปันเงินทองหรือ สิ่งของแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก หรือร่วมทำบุญบริจาคทานกับมูลนิธิสถานสงเคราะห์ และวัดวาอารามต่างๆ

25. ไม่มีชื่อเสียง

กรรมจาก เคยติฉินนินทาทำให้ผู้อื่นเสียหาย
ลดกรรม ร่วมทำบุญสร้างหอระฆัง ร่วมทำบุญหล่อเทียนพรรษา ทำทานกับคนยากไร้ และสัตว์อนาถา

26. ไม่มีวาสนาบารมี

กรรมจาก ไม่เคยนับถือชื่นชมผู้นับถือธรรมมะ
ลดกรรม ทำบุญสร้างพระพุทธรูป ทำทานกับคน

27. มีลูกหลานไม่ดี เกเร ไม่เชื่อฟัง

กรรมจาก ทำแท้ง เคยทำร้ายคนใกล้ชิดมาก่อน และทำร้ายจิตใจครอบครัวในชาติก่อน
ลดกรรม บวชเณร โดยให้ลูกบวชหรือไปร่วมบวช จะทำให้กรรมน้อยลง ปฏิบัติธรรม อุทิศให้ลูกตนเอง

28. เจอแต่คนเอาเปรียบ

กรรมจาก เคยเบียดเบียนเงินพ่อแม่ไว้ในอดีตชาติ เคยโกงคนไว้ในอดีตชาติ ขโมยเงินครอบครัวมาใช้
ลดกรรม หมั่นยึดถือศีล 5 ให้มั่น ไม่ดื่มเหล้า ทำให้ขาดสติ โดนโกงง่าย หมั่นสวดมนต์ อธิษฐานบารมีด้านขอพรให้พบเจอคนดีๆเข้ามาในชีวิต

29. เกิดในสกุลต้อยต่ำ

กรรมจาก โอหัง อวดดี จิตใจคับแคบ
ลดกรรม ร่วมทำบุญสร้างวัด สร้างพระประธาน ทำบุญทำทานกับคนยากไร้ และสัตว์อนาถา พิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี

30. ไร้สง่าราศี ขาดวาสนา

กรรมจาก เคยเมาสุระอาละวาด ระรานผู้อื่น!
ลดกรรม นั่งสมาธิ ฝึกกรรมฐาน ทำทานกับคนอนาถา และสัตว์อนาถา ร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี

31. ไม่เจริญก้าวหน้า จิตใจเป็นทุกข์

กรรมจาก เคยชักจูงคนทำชั่ว
ลดกรรม ถือศีล 8 เป็นเวลา 7 วัน ทุกๆ 3 เดือน หมั่นทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน

32. จิตใจฟุ้งซ่าน เป็นทุกข์

กรรมจาก เคยริษยาผู้อื่น
ลดกรรม ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน ปล่อยปลาลงน้ำ นั่งสมาธิ สวดมนต์บทคาถาพระชินบัญชร

33. ชีวิตตกต่ำ ทำสิ่งใดไม่เจริญ

กรรมจาก เคยทำแท้ง
ลดกรรม ปล่อยปลาลงน้ำทุกๆเดือน จนครบ 9 เดือน หรือ 1 ปีเต็ม ถวายสังฆทาน ทำบุญใส่บาตรเสมอ

34. เป็นเมียน้อย เมียเก็บ

กรรมจาก เคยผิดลูกผิดเมียเขามาก่อน ขืนใจเขาโดยไม่ยินยอม เคยอธิษฐานจิตร่วมกันมาว่ากี่ภพก็ขอให้ได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน
ลดกรรม ถวายธงคู่ ธูปคู่ เชิงเทียนคู่ หมอนคู่ อย่างใดก็ได้ อธิษฐานจิตขอให้ชีวิตคู่ที่ดีขึ้น บวชชีพราหมณ์ ปีละ 1

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS
Read comments

 


ข่าว

วิกิลีคส์ (Wikileaks) 

วันพฤหัสบดี ที่ 23 ธันวาคม 2553 เวลา 0:00 น
 
ในโลกไซเบอร์ถ้าหากคนรู้จัก มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก อีกมุมหนึ่งของโลกไซเบอร์ คนก็รู้จัก จูเลียน แอสเซนจ์ แห่งวิกิลีคส์ไม่แพ้กัน
   
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊กได้รับรางวัลบุคคลแห่งปี ค.ศ. 2010 โดยนิตยสารไทม์ ซึ่งมักจะเป็นผู้โด่งดังของโลก ซึ่งผม เองก็เคยเขียนเรื่องของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ไปหลายครั้ง
   
วิกิลีคส์เป็นเว็บไซต์ที่สามารถสร้างผลสะเทือนไปยังทั่วโลก โดยเฉพาะรัฐบาลของประเทศมหาอำนาจ เช่น สหรัฐอเมริกา โดยมีการเปิดเผยเอกสารลับของทางการสหรัฐ ถึง 400,000 ชิ้น เกี่ยวกับความลับในการดำเนินการทางทหารในอิรักในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ไม่นานนักก็ยังได้มีการเปิดเผยเอกสารลับซึ่งเป็นบันทึกทางทหารที่จัดเก็บชิ้นความลับเอาไว้ประมาณ 90,000 ชิ้น ซึ่งอธิบายรายละเอียดและทำให้เข้าใจถึงยุทธศาสตร์ทางทหารในอัฟกานิสถาน
   
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2010 ปีนี้เอง วิกิลีคส์ได้เผยแพร่วิดีโอเกี่ยวกับเฮลิคอป เตอร์อาปาเช่ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้สังหารประชาชนไม่น้อยกว่า 12 คน ซึ่งมีนักข่าวรอยเตอร์ 2 คนด้วย ในระหว่างที่กองทัพสหรัฐบุกเข้าโจมตีกรุงแบกแดด ประเทศอิรักในปี ค.ศ. 2007 นักวิเคราะห์ทางทหารสหรัฐอเมริกาคนหนึ่งกำลังรอถูกดำเนินคดี โดยมีการกล่าวหาว่าเขาทำให้เอกสารลับรั่วไหล
   
วิกิลีคส์ เป็นเว็บไซต์ที่เรียกตนเองว่าเป็นผู้เป่าสัญญาณนกหวีดเตือนภัยให้กับชาวโลกเพราะมักจะป้อนความรู้ให้ประชาชนชาวเว็บโดยการเผยแพร่เอกสาร
   
ผู้ก่อตั้งเว็บนี้และเป็นโฆษกที่ทำให้โลกได้รู้จักวิกิลีคส์ ไม่แพ้เว็บไซต์อื่นใดในโลกคือ จูเลียน แอสเซนจ์ ซึ่งกำลังถูกรัฐบาลประเทศมหาอำนาจของโลกหลายประเทศพยายามที่จะดำเนินคดีอยู่ แต่ทางวิกิลีคส์ก็มีอาสาสมัครทั่วโลกช่วยต่อสู้ทางกฎหมายให้กับคุณแอสเซนจ์ด้วยเช่นกัน
   
จูเลียน แอสเซนจ์ เป็นนักกิจกรรมทางอินเทอร์เน็ตเกิดวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 1971 ปัจจุบันอายุ 39 ปี เป็นชาวออสเตรเลีย ได้มีโอกาสเข้าเรียนมหาวิทยาลัยถึง 6 แห่ง แต่หลัก ๆ ก็จะเรียนทางฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น รวมทั้งปรัชญาและประสาทวิทยาแต่ไม่จบ เขาเป็นนักพัฒนาโปรแกรมทางด้านซอฟต์แวร์แบบโอเพ่น   ซอร์ส ได้เคยประดิษฐ์คิดค้นเกี่ยวกับเรื่องรหัสลับ สมัยเด็กเคยเป็นนักแฮกเกอร์มาก่อน
   
“วิกิลีคส์ นับได้ว่าเป็นองค์การข่าวสารแห่งแรกของโลกที่ไม่ได้เป็นของรัฐแต่ทรงอิทธิพลมากที่สุด ทีมงานของวิกิลีคส์เป็นอาสาสมัครมาช่วยพิจารณาตรวจสอบดูแลความถูกต้องของข่าวสารเพื่อดูว่าสมควรตีพิมพ์เพื่อเผยแพร่หรือไม่ นอกจากนี้เว็บไซต์ของเขานั้นสร้างด้วยเทคนิคการใช้รหัสลับขั้นสูงและมีนักกฎหมายชั้นนำช่วยกันปกป้องเว็บไซต์วิกิลีคส์ไม่ให้ถูกปิดหรือถูกทำลายจากรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ” คุณจูเลียน แอส เซนจ์ ได้กล่าวไว้
   
แอสเซนจ์ เคยได้รับรางวัลเสรีภาพแห่งการแสดงออกจำนวนมาก เช่น อิคอนอมิส องค์การนิรโทษกรรมสากล และแซม  อะดัมส์
   
ถ้าจะพูดภาษาการเมือง วิกิลีคส์นี่แหละ คือ ฝ่ายค้านตัวจริงของรัฐบาลมหาอำนาจของโลกในหลายประเทศ ซึ่งอุบัติขึ้นจากระบบไซเบอร์ของโลกยุคใหม่ ก็คอยจับตาดูและเงี่ยหูฟังเสียงนกหวีดจากเขาได้.

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS
Read comments

ทำไมถึง อกหัก?

เรื่องไม่มีสาระสำหรับบางคน     แต่มีประโยชน์อยู่บ้าง     
ไม่ว่าจะคบกับใครก็ตาม เคยสังเกตมั๊ย ถ้าเราเคยบอกเลิกกับใครก่อนโดยไม่มีเหตุผล และอีกฝ่ายนึงไม่ได้ทำผิด แต่ตัวเราอยากเลิกเอง นี่ละคือสาเหตุของผลกรรม

จะเกิดผลตอนไหนรู้มั๊ย !!!!!!!!

ตอนคบกะคนใหม่ และ ไม่นานเค้าก็จะทำเหมือนที่เราเคยทำกับคนเก่า

ยกเว้นแต่ว่า

คนใหม่ เป็น เนื้อคู่แท้ ของเรา


เรื่องเล่าจากประสบการณ์ตรงของคนเขียนที่เคยใช้กรรมมาก่อน อิอิอิ

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS
Read comments

ความเร็วเน็ตทั่วโลกปัจจุบัน

ข่าว

วันพฤหัสบดี ที่ 16 ธันวาคม 2553 เวลา 0:00 น




สัปดาห์นี้มาดูรายงานการศึกษาเรื่องความเร็วของอินเทอร์เน็ตในประเทศและเมืองต่าง ๆ ทั่วโลกว่าเป็นอย่างไร อย่างน้อยก็จะรู้ได้ว่าประเทศไหน เมืองไหน มีความเจริญมากน้อยเพียงใด
   
อะกามัย (Akamai) ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ด้านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้เปิดเผยความเร็วเฉลี่ยของอินเทอร์เน็ตทั่วโลกอยู่ที่ 1.7 เมกะบิตต่อวินาที (Mbps) และก็มีหลายประเทศที่ได้พัฒนาด้านบริการอินเทอร์เน็ตไปได้จำนวนมาก โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชีย
   
เมืองที่มีความเร็วอินเทอร์เน็ตสูงที่สุดในโลกคือ มาซาน (Masan) ในประเทศเกาหลีใต้ เรามาดูความเร็วเฉลี่ยของอินเทอร์เน็ตของประเทศที่อยู่ใน 10 อันดับแรกของโลกกันว่ามีประเทศอะไรบ้าง ดังนี้ 1.เกาหลีใต้ 12 เมกะบิตต่อวินาที 2.ฮ่องกง 9 เมกะบิตต่อวินาที 3.ญี่ปุ่น 7.8 เมกะบิตต่อวินาที 4.โรมาเนีย 6.3 เมกะบิตต่อวินาที 5.ลัตเวีย 6.3 เมกะบิตต่อวินาที 6.สวีเดน 6.1 เมกะบิตต่อวินาที 7.เนเธอร์แลนด์ 5.9 เมกะบิตต่อวินาที 8.สาธารณรัฐเช็ก 5.4 เมกะบิตต่อวินาที 9.เดนมาร์ก 5.3 เมกะบิตต่อวินาที 10. สวิตเซอร์แลนด์ 5.2 เมกะบิตต่อวินาที
    .
ประเทศเกาหลีใต้ซึ่งมีความเร็วเฉลี่ยอินเทอร์เน็ตสูงที่สุดในโลก พบว่าคนเกาหลีชอบใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วเฉลี่ยที่ 12 เมกะบิตต่อวินาที ส่วนความเร็วเฉลี่ยสูงสุดที่คนเกาหลีใช้อยู่ที่ 33 เมกะบิตต่อวินาที แม้ว่าที่ประเทศเกาหลีใต้จะมีความเร็วอินเทอร์เน็ตสูงสุดที่ 100 เมกะบิตต่อวินาที แต่ราคาขนาดนี้ประชาชนเกาหลีทั่วไปมักจะไม่มีโอกาสใช้เพราะราคาแพงมาก คือ เกือบ 10,000 บาทต่อเดือน
   
ถ้าหากมาดูว่าประเทศที่มีการถูกโจมตีทางอินเทอร์เน็ตมากที่สุดของโลก 10 ประเทศ มีดังนี้ 1.รัสเซีย 12% 2.สหรัฐอเมริกา 10% 3.จีน 9.1%  4.ไต้หวัน 6.1% 5.บราซิล 6.0%  6.อิตาลี 4.4%  7.เยอรมนี 3.9% 8.โรมาเนีย 3.2% 9.ญี่ปุ่น 2.9%  10.โปแลนด์ 2.4%  
   
ในจำนวนผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายทั่วโลก 109 แห่งพบว่า 83 แห่ง ให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เกินกว่า 2 เมกะบิตต่อวินาที  33 แห่งให้บริการสูงกว่า 5 เมกะบิตต่อวินาทีและ 6 แห่ง ให้บริการสูงกว่า 10 เมกะบิตต่อวินาที
   
ส่วนประเทศที่ให้บริการที่แตกต่างกันมากที่สุด คือ สโลเวเนีย ซึ่งให้บริการความเร็วเฉลี่ยตั้งแต่ 105 กิโลบิทต่อวินาทีจนถึง 7.2 เมกะบิตต่อวินาที
   
ประเทศในแถบเอเชียมี 100 อันดับเมืองของโลกที่มีความเร็วอินเทอร์เน็ตสูงสุด ปรากฏว่า ประเทศญี่ปุ่นมีกว่า 50 เมือง แต่ของสหรัฐอเมริกามีแค่ 12 เมืองเท่านั้น แต่ถ้าพิจารณาเหลือ 20 อันดับเมืองที่มีความเร็วอินเทอร์เน็ตสูงสุดของโลกนั้น เป็นของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ทั้งหมด ยกเว้นอันดับที่ 18 เป็นเมืองอูเมีย (Umea) ประเทศสวีเดน สหรัฐอเมริกาไม่ติดอันดับเลย                        
ส่วนประเทศไทย การบริการอินเตอร์เน็ตควรราคาถูกลง ณ ความเร็วที่ประชาชนพอใจ น่าจะเป็นประเด็นสำคัญให้คนไทยทั่วไปได้มีโอกาสใช้อินเทอร์เน็ตกันมากขึ้นครับ.


รศ.ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล
อธิการบดี
มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด
boonmark@stamford.edu

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS
Read comments

เรียนต่อด้านไหนได้บ้าง

        จบสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศแล้ว สามารถไปศึกษาต่อได้ทั้งทางด้านเทคนิค และด้านการบริหารจัดการหรือด้านธุรกิจ ทางด้านเทคนิค ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถไปศึกษาต่อได้ทั้งที่เป็นศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ คอมพิวเตอร์โดยตรง เช่น ด้านระบบฐานข้อมูลในองค์กร ด้านเน็ตเวิร์ค ด้านความปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์ ด้านระบบคอมพิวเตอร์อัจฉริยะหรือปัญญาประดิษฐ์ และที่นำคอมพิวเตอร์ไปประยุกต์ในงานสาขาอื่น เช่น ด้านสื่อสารมวลชน ด้านมัลติเมเดีย ด้านอะนิเมชั่น ด้านสารสนเทศเพื่อการแพทย์ ด้านสารสนเทศชีววิทยา ด้านการสร้างแบบจำลองเพื่อวิเคราะห์ทางเคมีและฟิสิกส์ เป็นต้น

        ส่วนด้านการบริหารจัดการหรือด้านธุรกิจนั้น ผู้สำเร็จการศึกษาสามารถศึกษาต่อด้านการบริหารจัดการหรือเอ็มบีเอ ด้านการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการลงทุนเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านระบบสารสนเทศเพื่อบริหารงานบัญชี ด้านระบบสารสนเทศเพื่องานบุคคล ด้านระบบสารสนเทศเพื่อผู้บริหาร ด้านการประเมินและวิเคราะห์ความเสี่ยงของธุรกิจ เป็นต้น

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS
Read comments

เรียนจบแล้วสามารถทำงานที่ไหนได้บ้าง?

หลังจบสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ นักศึกษาสามารถทำงานหรือศึกษาต่อระดับสูงได้ทั้งที่เป็นด้านเทคนิคและด้าน การบริหารจัดการ โดยถ้าผู้สำเร็จการศึกษาสนใจด้านการบริหารจัดการนั้น การเรียนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมีข้อได้เปรียบกว่าสาขาอื่นๆ คือ นักศึกษาจะมีความรู้ในเชิงเทคนิคที่แน่นพอ โดยเฉพาะ องค์กรเกือบทุกองค์กรในปัจจุบันใช้ระบบสารสนเทศในการบริหารจัดการ ดังนั้นนักศึกษาที่จบจะมีพื้นฐานที่ดีต่อการประกอบอาชีพในบริษัทหรือ องค์กรที่นำระบบสารสนเทศมาใช้ในการจัดการ การจัดการที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ นอกจากนี้นักศึกษาสามารถเลือกเรียนเพิ่มเติมด้านการบริหารจัดการทำให้สามารถ ทำงานด้านการให้คำแนะนำแก่บริษัทต่างๆ ได้ นักศึกษาที่จบด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจะสามารถทำงานได้ทั้งด้านเทคนิคและด้าน การบริหารจัดการดังนี้

1. งานด้านเทคนิคหรืองานผู้เชี่ยวชาญ
ผู้ออกแบบและวิเคราะห์ระบบสารสนเทศในบริษัทหรือองค์กรต่างๆ
ดูแลระบบคอมพิวเตอร์ และบำรุงรักษาระบบสารสนเทศ
ผู้เขียนโปรแกรมประยุกต์หรือโปรแกรมระบบงาน หรือที่เรียกว่าโปรแกรมเมอร์
ผู้ออกแบบสร้างและบำรุงรักษาระบบฐานข้อมูลซึ่งเป็นระบบสารสนเทศพื้นฐานในทุกองค์กร
ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ผู้ออกแบบและโปรแกรมระบบสารสนเทศอัจฉริยะ
ผู้ออกแบบและโปรแกรมระบบกราฟิกหรืออะนิเมชั่น

2. งานด้านการบริหารจัดการหรืองานให้คำปรึกษา
ผู้ประสานงานในโครงการต่างๆที่เกี่ยวกับระบบสารสนเทศ
ผู้จัดการแผนก ส่วนหรือฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศในองค์กร
ผู้ให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแก่องค์กรต่างๆ
ผู้ประกอบธุรกิจหรือนักลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS
Read comments

เทคโนโลยีสารสนเทศต่างกับวิทยาการคอมพิวเตอร์อย่างไร

       คำถามที่ถูกถามบ่อยๆ ข้อหนึ่งก็คือ เทคโนโลยีสารสนเทศต่างกับวิทยาการคอมพิวเตอร์อย่างไร ที่จริงแล้วสองสาขานี้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาก โดยวิทยาการคอมพิวเตอร์นั้นถือกำเนิดมาก่อนเทคโนโลยีสารสนเทศ และจะเน้นด้านทฤษฏีเป็นหลัก โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับ โครงสร้างของเครื่องคอมพิวเตอร์ หลักการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ การผลิตซอฟต์แวร์ที่มีขนาดใหญ่ให้มีประสิทธิภาพ การนำคอมพิวเตอร์มาใช้กับงานชั้นสูงที่มีความซับซ้อนมาก จุดเด่นของวิทยาการคอมพิวเตอร์คือ เน้นศึกษาวิธีการทำให้คอมพิวเตอร์มีสมรรถนะที่สูงขึ้น และศึกษาวิธีการผลิตซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพเพื่อใช้งานคอมพิวเตอร์ให้เกิดประโยชน์สูงที่สุด

       สำหรับเทคโนโลยีสารสนเทศหรือไอทีนั้น ได้ถูกกล่าวถึงกันมากในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมานี้เองหลังจากอินเตอร์เน็ตเป็นที่แพร่หลาย โดยเทคโนโลยีสารสนเทศจะเน้นการประยุกต์ใช้งานคอมพิวเตอร์ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานด้านธุรกิจ งานด้านการสื่อสาร งานในสายการผลิต งานด้านบริการ เป็นต้น เทคโนโลยีสารสนเทศนั้นค่อนข้างเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว โดยจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา จุดเด่นของเทคโนโลยีสารสนเทศคือ เน้นศึกษาวิธีการนำคอมพิวเตอร์ไปประยุกต์ใช้งาน จัดการเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารหรือสารสนเทศ ซึ่งรวมไปถึงเทคโนโลยีระบบเคลื่อนที่ เช่น มือถือ และการจัดการธุรกิจและการลงทุนที่เกี่ยวกับสารสนเทศ

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS
Read comments