ช่วงประมาณสองเดือนที่ผ่าน มา ท่านผู้อ่านที่อยู่ในแวดวงเกมคงจะตื่นเต้นเกี่ยวกับอุปกรณ์น้องใหม่ล่าสุดจากค่ายไมโครซอฟท์ เจ้าของผลิตภัณฑ์ XBOX 360
ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวนั้นก็คือไคเน็กต์ (Kinect) นั่นเอง ไคเน็กต์นั้นเป็นอุปกรณ์เพิ่มเติมสำหรับ XBOX 360 ไคเน็กต์เป็นกล่องสี่เหลี่ยมยาวประมาณหนึ่งฟุตและมีกล้องและอุปกรณ์อื่น ๆ สำหรับการ “มองเห็น” โดยทางไมโคร ซอฟท์ เองระบุว่ามันคือ “เกมและความบันเทิงที่ปราศจากอุปกรณ์” เกมหรือคอมพิวเตอร์ทั่วไปนั้น จะต้องมีอุปกรณ์รับข้อมูลต่าง ๆ จากผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น เวลาเราใช้งานคอมพิวเตอร์ เราก็ต้องใช้แป้นพิมพ์หรือเมาส์ ส่วนเวลาที่เราเล่นเกมบนเครื่องเกมต่าง ๆ เช่น XBOX หรือ PlayStation นั้น เราก็ต้องใช้อุปกรณ์ควบคุม หรือที่นิยมเรียกกันว่า “จอย” ซึ่งย่อมาจาก “จอยสติก” (joystick) สำหรับไคเน็กต์นั้น การใช้อุปกรณ์ควบคุมเหล่านี้จะหมดไป ยกตัวอย่างเช่น เวลาเราเล่นเกมขับรถ ถ้าเราอยากจะบังคับรถให้เลี้ยวขวา ปกติแล้วเราก็จะกดปุ่มลูกศรขวาบนคอมพิว เตอร์ หรือกดปุ่มขวาบนจอย แต่ถ้าเราใช้ไคเน็กต์ สิ่งที่เราทำก็เพียงแค่ “ทำท่า” หมุนพวงมาลัยไปทางขวา โดยที่ไม่ต้องสัมผัสอุปกรณ์ใด ๆ เลย
ไคเน็กต์ทำเช่นนั้นได้เพราะว่า แทนที่ไคเน็กต์จะมีปุ่มให้กด มันกลับเป็นอุปกรณ์ที่มี “ตา” ที่สามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้คล้ายกับตาคน คือนอกจาก จะเห็นสีของสิ่งต่าง ๆ แล้ว ไคเน็กต์ยังสามารถรับรู้ “ระยะ” ของสิ่งของต่าง ๆ ที่มันมองเห็นได้ด้วย (ตาของคนเรานั้นสามารถรับรู้ “ระยะ” ได้ เนื่องจากเรามีตาสองข้าง และมีสมองที่คอยแปลงภาพที่ เราเห็นเป็น “ระยะ” ซึ่งทำให้เราสามารถกะระยะของสิ่งต่าง ๆ หรือรับลูกเทนนิสที่ลอยมาหาตัวเราได้อย่างแม่นยำ)
แน่นอนว่าไคเน็กต์นั้นเป็นที่น่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับนักเล่นเกม แต่ท่านผู้อ่านอาจจะยังสงสัยว่าแล้วมันจะพลิกโลกอย่างไร? ตัวไคเน็กต์นั้นมีประเด็นที่สำคัญอยู่สองอย่าง คือ 1) ไคเน็กต์ สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ เนื่องจากมันเชื่อมต่อกับ XBOX 360 ผ่านทาง USB และ 2) ไคเน็กต์นั้นมีราคาถูกมาก ทั้งนี้ต้องทราบก่อนว่าอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เหมือนกับไคเน็กต์นั้นมีมานานแล้ว เพียงแต่ว่ามันมีราคาที่แพงมาก (อุปกรณ์อื่นบางตัวนั้นแพงกว่าไคเน็กต์กว่า 50 เท่า) และการใช้งานนั้นยุ่งยาก ทำให้การใช้งานนั้นจำกัดอยู่เฉพาะในวงการวิจัย หรืองานเฉพาะทางเท่านั้น
การที่ไคเน็กต์นั้นเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้และมีราคาถูก ทำให้มีผู้สนใจนำเอาไคเน็กต์ไปใช้งานต่าง ๆ มากมาย โดยมีผู้สนใจไคเน็กต์มาตั้งแต่ก่อนที่จะมีวางจำหน่ายทั่วไปเสียอีก และถึงแม้ไมโครซอฟท์จะไม่ได้สนับสนุนการใช้งานไคเน็กต์บนคอมพิวเตอร์ตั้งแต่แรก แต่ก็มีบรรดาเซียนคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ได้พัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับใช้งานไคเน็กต์บนคอมพิวเตอร์เป็นที่เรียบร้อย
การที่เรามีอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เป็น “ตา” คือสามารถรับรู้ทั้งสีและระยะของ สิ่งของต่าง ๆ ได้นั้นทำให้คอมพิวเตอร์สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้มากมาย ในช่วงเวลากว่าสองเดือนที่ผ่านมานี้ ได้มีคนนำ ไคเน็กต์ไปใช้งานต่าง ๆ เช่น ใช้ไคเน็กต์ในการควบคุมโปรแกรมเบราเซอร์ โดยให้ใช้การโบกมือแทนการใช้เมาส์กดปุ่มต่าง ๆ การใช้งานแบบนี้เรียกว่าการรู้จำท่าทาง (Gesture Recognition) ท่านผู้อ่านที่ เคยชมหนังดังฮอลลีวูดเรื่อง Minority Report นั้นคงจะจำได้ดีถึงฉากที่ตัวเอกนั้นควบคุมคอมพิวเตอร์ผ่านทางการใช้ท่าทางในการปรับแต่งวิดีโอ ซึ่งได้มีคนนำเอาไคเน็กต์มาดัดแปลงเพื่อให้ได้การควบคุมดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตัวอย่างอื่น ๆ เช่น การนำไคเน็กต์ไปใช้ติดตั้ง บนรถบังคับ เพื่อสร้างแบบจำลองสามมิติเสมือนจริงของห้องที่วิ่งผ่าน ไปจนกระทั่งการใช้งานที่เกี่ยวกับชีวิตคน เช่น การใช้ไคเน็กต์ในการควบคุมการดูภาพเอกซเรย์ต่าง ๆ และยังมีงานอื่น ๆ อีกมากมาย เห็นไหมครับอุปกรณ์สำหรับความบันเทิง ก็ได้กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญในการทำงานต่าง ๆ มากมาย
กล่าวอภัยผู้ติดตามทุกท่าน
เนื่องจากระบบอินเตอร์เนตหอขัดข่องจึงไม่ได้มาอัพเดทเป็นเวลานาน ต่อจากนี้ไปจะพยายามมาอัพบ่อยๆ ไม่ให้ช้านอกจากติดภาระกิจ ^^